Guest
Username:
Password:
Jamsai
Jamsai Love Series
LOVE
มากกว่ารัก
everY
Enter Books
สินค้า Non-book
Enter HERE
Cookie
Moonlight
Life Vaccine
ท่องเที่ยว
Print On Demand
PreOrders
อื่นๆ
>
ความรู้สึกดี... ที่เรียกว่ารัก
Dreamland Of Love
Sweet Asian
Magic Cafe' Love
Jamsai Light Novel
Enter Light Novel
Magic Cafe'
ปกิณกะ
Book Wave (การ์ตูนสำหรับเด็กและเยาวชน)
สินค้าทั้งหมด
ชื่อเรื่อง
นักเขียน-นักแปล
หน้าแรก
>
แบ่งกันอ่าน
>
อ่านเรื่อง
>
อ่านตอน
อ่านเรื่อง
ชื่อเรื่อง :
แผนร้ายวุ่นรัก
ชื่อผู้แต่ง :
ooJampoOoo
ชื่อตอน :
ตอนที่ 4 ความลับของ ลีซุนฮยอน
ตอนที่ :
5
อัพเดทเมื่อ :
25/11/2554 23:09:08
เข้าชม :
192
เนื้อเรื่อง
ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่างโผล่ขึ้นมา มีขอทานสองคนกระโดดออกจากบ้านร้าง จากนั้นเดินถัดจากตลาดการค้า ก็เข้าสู่ทางเดินม้า ลัดเลาะผ่านป่าทึบไปด้วยเกรงว่าจะมีชาวบ้านมาพบเข้า แต่พอตัดผ่านป่านั้นไปก็จะเห็นจวนขุนนางใหญ่โตล้อมรอบด้วยกำแพงหนาและสูงใหญ่ ขอทานทั้งสองเดินไปยังทิศใต้ และเข้าไปยังประตูหลังของจวน
คนในจวนเห็นขอทานทั้งสองไม่เพียงไม่ไล่ให้จากไป ทั้งยังสีหน้ายินดีปลื้มปิตินักอีกด้วย ส่วนอีกคนตะโกนให้คนในจวนรู้ “คุณหนูกลับมาแล้ว!”
พอได้ยินเสียงบอก คนในจวนต่างตื่นเต้นทั้งยังเตรียมตัว วิ่งไปหอบข้าวของที่ตัวเองมุ่งหมายไว้นำไปให้ ‘คุณหนู’ ทั้งจ้าวบ้าน คือเสนาบดีกระทรวงศึกษา บิดาของนาง มารดาผู้เป็นนายหญิงของบ้าน น้องชายผู้กำลังอยู่ในวัยเรียนและสอบไล่ ต่างกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปที่ห้องพักของ ‘คุณหนู’
ขอทานน้อยเดินหายเข้าไปในห้องพักปิดประตูเงียบ เห็นแต่เงาของพวกนางที่ชำระช้างคราบสกปรกออกแล้วเปลี่ยนเครื่องแต่งกายอยู่ด้านใน พอผู้คนทยอยมาถึงหน้าห้อง พวกเขาก็ส่งสายตาให้กันอย่างหวาด ๆ และในที่สุดก็กดดันให้จ้าวบ้านผู้เป็นผู้นำ ออกหน้าก่อนใครเพื่อนอย่างไม่มีทางเลือก
“ซุนฮยอน.... นี่พ่อเองนะ”
คนในห้องพัก กำลังสางผมเงาสลวยของนางอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดประตูออกมา
“วันนี้พ่อต้องไปเข้าประชุมกับองค์จักรพรรดิ ทรงให้เพิ่มหลักสูตรเข้าไป เสริมเรื่องของขงจื้อเข้าไปอีก.... ข้าไม่รู้จะเอาเรื่องใดมา...”
“ขงจื้อ?” ได้ยินเสียงลอดออกมา สีหน้าของท่านจ้าวบ้านดูดีขึ้นไม่น้อย
“ถูกต้อง...ขงจื้อ...”
คนในห้องเงียบไปสักพัก ประตูก็เปิดแง้มออกช้า ๆ สาวใช้หน้านวลก้าวออกมาพร้อมกับนำกระดาษคำตอบมายื่นให้
“ขอบใจมากนะ... พรุ่งนี้ข้ารอดแล้ว...” ท่านจ้าวบ้านจากไปอย่างดีอกดีใจ คราวนี้ถึงตานายหญิงบ้าง
“เอ่อ....ซุนฮยอน พรุ่งนี้งานเลี้ยงของท่านเจ้ากรม แม่ไม่รู้จะจัดแบบจีน หรือแบบเกาหลี เจ้าว่าแบบไหนดี”
“จีน...”
“แบบจีน มีอาหารตั้งร้อยกว่าชนิด ไม่รู้ว่า....”
ประตูถูกเปิดออกมา ลีซุนฮยอนแต่งกายเรียบร้อยสมเป็นลูกขุนนาง แต่แววตารูปเมล็ดอัลมอนด์ของนางดูเย็นชานัก
“ตามรายการนี้...” นางยื่นกระดาษคำตอบให้สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ดียิ่ง...ขอบใจนะ”
ถัดจากมารดาก็เป็นน้องชายของนางงั้นรึ.... ซุนฮยอนคิดพลางถอนหายใจ
“เรื่องอะไร...”
“เอ่อ...” น้องชายของนางขี้กลัว แต่ก็รักและชื่นชมนางนัก “การบ้าน...”
“ติดใจตรงไหน...”
“ตรงนี้...” เขารีบยื่นให้นางดูหน้าที่ใช้กระดาษคั่นไว้
“แปลไม่ออกหรือ...”
“ใช่.... ข้าไม่เข้าใจ”
“นี่คือปรัชญา เรื่องความกตัญญู”
“อาจารย์บอกว่า เป็นคติสอนขุนนางได้ด้วย”
“เป็นขุนนาง สิ่งใดสำคัญต้องรู้ลำดับก่อนหลัง หากในยุ่งเหยิงก็ต้องเอานอกเข้าไปช่วย นางนอกหย่อนยาน ต้องต้องเอาในมาตีกรอบ เข้าใจหรือไม่”
“ข้าเข้าใจแล้ว...” ใบหน้ายิ้มแย้มของน้องชายเป็นสิ่งที่ทำให้นางมีความสุขและช่วยให้จิตใจชุ่มชื้นได้บ้าง ก่อนที่จะต้องรับภาระหนักต่าง ๆ ในบ้านหลังนี้
“เอาล่ะ พวกเจ้ามีอะไร มาฝากไว้ให้ข้า ข้าจะให้คุณหนูช่วยบอกพวกเจ้าทีหลัง!” สาวใช้ของนางรีบสั่งการ วันนี้คุณหนูของนางเหนื่อยมามากแล้ว
ส่วนคุณหนูก็หันไปมองนางอย่างผ่อนคลาย จิยอนเป็นสาวใช้ผู้รู้ความอย่างยิ่ง พวกนางโตมาด้วยกัน สนิทกันและรู้ใจกันยิ่งกว่าพี่น้อง ยามนั้นที่นางต้องรับภาระเรื่องของบิดา ตอนที่เพิ่งอายุเพียง 12 บิดารับคนยากคนจนมาดูแล บางรายก็ตกอับเพราะถูกขุนนางกลั่นแกล้ง บางรายก็เป็นเหยื่อสงคราม บางรายก็ต้องโทษถูกใส่ความ บิดาเป็นคนใจอ่อนอย่างยิ่ง และชอบช่วยเหลือคนตกยาก ดังนั้นที่ดินทรัพย์สิน ก็ยกให้คนเหล่านี้อยู่และทำมาหากิน จนการเงินในบ้านติดขัดอย่างยิ่ง ตระกูลขุนนางห้าชั่วคนของนางเกือบจะต้องสูญไปเพราะการกระทำไม่ยั้งคิดของบิดา ซุนฮยอนจึงเอาเงินจำนวนที่เหลือกับที่ดินทรัพย์สินที่มีมาบริหารจัดการ นางปลอมตัวออกไปเป็นขอทานเพื่อควบคุมคนยากไร้พวกนั้นให้เป็นกลุ่มก้อน นางเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาได้รับ แต่การช่วยเหลือคนมิใช่ให้ทรัพย์สินให้ของกิน นั้นเป็นการช่วยเพียงชั่วคราว สิ่งที่นางจะทำคือช่วยให้พวกเขามีกินไปตลอด นางจึงรวมกลุ่มขอทานทั้งหลายและกำหนดกฎระเบียบ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ นางตั้งแผงค้าขายในที่ดินที่อยู่นอกเมืองหลวงซึ่งเป็นของครอบครัวโดยให้พวกเขาผ่อนใช้ตามอัตรา ส่วนนางก็เอาสินค้ามาหมุนเวียนเปลี่ยนมือกระทั่งผ่านมาสองปี ตอนนี้ครอบครัวมีกำไรและกลับมามั่งคั่งได้อีก พวกขอทานก็ช่วยเหลือคนเองได้ บางรายกลับมั่งมีขึ้นไม่ต้องขอทานต่อไป ทว่าขอทานกลับเพิ่มขึ้นมาอีก จนนางอดแค้นเคืองราชสำนักไม่ได้
ส่วนมารดาก็เป็นคนที่ไม่เด็ดขาดอย่างยิ่ง ฝีมือการทำอาหารของมารดาเป็นที่เลื่องลือกระทั่งในวังยังเชิญให้นางไปเป็นแม่งานในการจัดเลี้ยงหลายต่อหลายครั้ง พอเริ่มเบื่ออาหารซ้ำ ๆ พวกนั้นก็ร้องขอสิ่งใหม่ ๆ ทำให้นางอับจนหนทางยิ่ง แต่จะเสียหน้าก็ไม่ได้ ทุกครั้งจึงต้องมาขอความเห็นของนางอยู่เสมอ นางไม่ได้มีฝีมือในการทำอาหาร แต่เรื่องศิลปะในการจัดการ นางเก่งกาจอย่างยิ่ง
เพราะแบบนี้ แม้แต่คนใช้ในบ้าน การจัดการในบ้านก็ต้องเอาทุกเรื่องมาให้นางตัดสิน ถือว่า ‘คุณหนู’ เป็นคนที่กุมอำนาจในบ้านและเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนนายท่านไปเสียแล้ว
“คุณหนูเจ้าคะ.... ท่านน่ะชอบทำให้ข้าอกสั่นขวัญหายอยู่เรื่อยรู้ตัวหรือไม่”
“เรื่องอะไร?” นางคิ้วขมวดเมื่อเห็นสาวใช้หน้าซีดเอามือทาบหน้าอก
“ก็ท่านชายพาร์คจะมาเป็นคู่หมั้นของคุณหนูอยู่แล้ว...ทำไมถึงไปทำแบบนั้น ถ้าหากเขาจับได้ว่าคุณหนูเป็นหัวหน้าขอทานพวกนั้น...”
“แล้วยังไง...” นางเอ่ยเสียงเรียบเรื่อยไม่ใส่ใจ
“คุณหนูเจ้าคะ... อย่าทำเป็นเมินเฉยได้ไหม นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแล้วนะ” จิยอนเป็นห่วงสวัสดิภาพของนางยิ่ง แต่ก็เพราะว่านางไม่รู้เรื่องอะไรจึงเป็นเช่นนี้ ซุนฮยอนไม่โกรธนางหรอก
ตอนนั้นที่จักรพรรดิทรงสัญญาเอาไว้... นางจำได้...
‘ข้าจะให้เจ้าพิสูจน์ด้วยตาตนเอง’
นางไม่เข้าใจที่ทรงตรัสเลยสักนิด ทรงคิดจริง ๆ หรือว่าที่นางพูดประชดขนาดนั้นพระองค์ยังคงเชื่อว่านางจะเชื่อถือได้อีก กษัตริย์ผู้นี้.. เสแสร้งเก่งเสียจริง
‘ข้าเป็นขอทาน มีความผิด อะไรที่ท่านต้องการจากคนของข้างั้นหรือ’ นางถามออกไป
‘ถ้าเจ้าช่วยเรา เราจะช่วยเจ้า’
ทุกวันนี้ นางเก็บความลับของขุนนางมากมายเอาไว้ในมือ เพื่อเป็นสิ่งค้ำประกัน จักรพรรดิหลอกใช้พวกนาง ไม่ใช่ว่านางไม่รู้ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่ทรงออกหน้าไม่ได้ ก็ทรงโยนให้พวกขอทานอย่างนางทำหมด เรื่องเก็บความลับของขุนนางก็เพื่อจะได้สั่งให้พวกมันทำประโยชน์บางอย่าง จักรพรรดิน่ะชาญฉลาดและทรงอำนาจเกินไป นางไม่อยากจะยุ่งด้วย สิ่งที่นางคิดคือการเอาตัวรอดเท่านั้น เมื่อใดที่ทรงเปลี่ยนเป็นเสือร้ายขึ้นมา นางกับพวกของนางจะต้องรอด และที่สำคัญเมื่อใดที่ถึงเวลานั้นขึ้นมา... นางก็มีแผนที่จะรับมือ
‘เมื่อยามนั้นมาถึง เจ้ากับคนของเจ้าจะได้กลับเข้าเมืองหลวง’
แค่ทรงตรัสแต่ปากนางก็ไม่เชื่อหรอก แต่ทรงยื่นราชโองการให้ นางจึงจะยอมทำตามที่พระองค์ต้องการ และพาร์คชองกีก็มักจะทำตัวเป็นแมวขโมย ทำให้นางต้องหวาดผวาอยู่บ่อย ๆ เพราะแบบนี้นางจึงระมัดระวังตัวมาก ยามที่ต้องปลอมตัวเป็นขอทาน ราชโองการที่ไม่อาจทำให้สูญหายไปได้ มันเป็นสัญญาเลือดระหว่างนางกับจักรพรรดิ
อีกเรื่องที่นางสงสัย เรื่องสำคัญยิ่ง... สำคัญยิ่งกว่าการกบฏของขอทาน... หากไม่ใกล้ชิดกับพวกราชสำนักสักหน่อย คงจะไม่มีทางรู้แน่....
แจ้งลบ
ข้อความ :
จากคุณ * :
มีปัญหาทางเว็บ ติดต่อ
[email protected]
จำนวนผู้ชมเว็บแจ่มใสขณะนี้: 293 ท่าน