
1) หนูแยม: สวัสดีค่ะ หนูแยมขอเป็นตัวแทนชาวแจ่มใสมาพูดคุยทำความรู้จักนักแปลคนเก่งที่ช่วยถ่ายทอดเรื่องราวสนุกๆ น่าประทับใจจากต่างประเทศมาเป็นภาษาไทยให้เราได้อ่านกันนะคะ อันดับแรกก็ต้องแนะนำตัวกันสักนิดค่ะ ในวงการใช้นามปากกาว่าอะไรบ้างคะ หรือจะแนะนำชื่อจริงก็ไม่ว่ากันนะ
นักแปล: ชื่อหนึ่งค่า แปลหนังสือมาก็หลายปี ไม่มีนามปากกากับเขาเลย ><
2) หนูแยม: นามปากกาเก๋ๆ แบบนี้ มีที่มาจากไหนหรือคะ
นักแปล:
3) หนูแยม: ปกติแล้วแปลแนวอะไรบ้างคะ และคิดว่าแนวที่แปลมีเสน่ห์ยังไงบ้าง
นักแปล:แฟนตาซีค่ะ สองซีรีส์ที่แปลเป็นแนวแฟนตาซี และมีวิญญาณเกี่ยวข้องทั้งคู่เลย หนึ่งว่าแนวแฟนตาซีให้มุมมองที่แตกต่างให้สีสันความสนุกใหม่ๆ กับคนอ่านเสมอนะคะ
4) หนูแยม: นอกจากงานแปลแล้ว ทำงานอื่นควบคู่ไปด้วยหรือเปล่าคะแล้วต้องแบ่งเวลาทำงานยังไงบ้าง
นักแปล: ทำงานประจำค่ะ โชคดีว่างานประจำเลิกเร็ว แทบไม่มีโอทีเลย กลับบ้านพักผ่อนนิดหน่อยก็แปลหนังสือต่อได้สบาย ๆ เลย:-)
5) หนูแยม: เวลาทำงานเครียดๆ มีวิธีจัดการกับความเครียดยังไงคะ
นักแปล: โชคดีว่าเป็นคนไม่ค่อยเครียดกับงาน 555 ถ้าจะเริ่มเครียด ก็กลับมุมมองนิดหนึ่ง บอกตัวเองว่าปัญหามีไว้ให้แก้ละกันเนอะ ;-)
6) หนูแยม: คิดว่าการแปลนิยายให้อะไรกับเราบ้างคะ
นักแปล: ช่วยพัฒนาภาษาญี่ปุ่นมากค่ะ เหมือนว่ายังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ตลอด เรียนเท่าไหร่ไม่จบสักที ^^
7) หนูแยม: โดยส่วนตัวแล้ว ชอบอ่านเรื่องแนวไหน หรือชอบตัวละครแบบไหนเอ่ย
นักแปล:หลัง ๆ ชอบนิยายที่เรื่องราวเกิดขึ้นในตะวันออกกลางมากเลย
8) หนูแยม: อยากให้นิยาม ‘ความสุข’ ในแบบของตัวเองหน่อยค่ะ
นักแปล:หลัง ๆ มานี้ ความสุขของหนึ่งไม่ค่อยมาในรูปแบบของการ ‘ได้รับ’ แล้ว แต่เป็นการ ‘ได้เห็น’ ‘ได้ยิน’ ‘ได้สัมผัส’ กับเรื่องราวเล็กน้อยที่กระทบความรู้สึก อย่างเห็นคนยืนชิดขวาบนบันไดเลื่อนแล้วตื้นตัน รู้สึกว่าน่ารักกันจังเลย 5555
9) หนูแยม: ถ้าหากเพื่อนๆ ที่อ่านอยู่อยากเป็นนักแปลบ้าง ควรเริ่มต้นยังไงดีคะ
นักแปล:นักแปลเริ่มต้นจากการเป็นนักอ่านค่ะ ^^
10) หนูแยม: สุดท้าย อยากฝากอะไรถึงนักอ่านแจ่มใสบ้างคะ
นักแปล: ขอบคุณที่รักหนังสือ ขอบคุณที่รักการอ่านนะคะ :-)