1) หนูแยม: สวัสดีค่ะ หนูแยมขอเป็นตัวแทนชาวแจ่มใสมาพูดคุยทำความรู้จักนักแปลคนเก่ง ที่ช่วยถ่ายทอดเรื่องราวสนุกๆ น่าประทับใจจากต่างประเทศมาเป็นภาษาไทยให้เราได้อ่านกันนะคะ อันดับแรกก็ต้องแนะนำตัวกันสักนิดค่ะ ในวงการใช้นามปากกาว่าอะไรบ้างคะ หรือจะแนะนำชื่อจริงก็ไม่ว่ากันนะ
นักแปล: สวัสดีค่ะทุกๆ คน Honey Toast ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
2) หนูแยม: นามปากกาเก๋ๆ แบบนี้ มีที่มาจากไหนหรือคะ
นักแปล: อันนี้ขอเท้าความนิดนึง คือว่าตอนแรกที่เริ่มทำงานกับแจ่มใส จะแปลแนว Cookie ก่อน น้องฝ่าย บ.ก. เขียนอีเมลมาขอให้ตั้งนามปากกาแบบให้เข้ากับแนวที่จะแปล พอเห็นว่าเป็นคุกกี้ ก็ปิ๊งคำว่า Honey Toastขึ้นมาเลย (แฮะๆ อันที่จริงคือ ช่วงนั้นชอบกินฮันนี่โทสต์มากต่างหาก คิดอะไรไม่ออกก็เอาชื่อนี้ล่ะกัน)
3) หนูแยม: ปกติแล้วแปลแนวอะไรบ้างคะ และคิดว่าแนวที่แปลมีเสน่ห์ยังไงบ้าง
นักแปล: เริ่มต้น Cookie ก่อน ส่วนตอนนี้เปลี่ยนมาแปลมากกว่ารักแล้ว เสน่ห์ของมากกว่ารักเหรอคะ...น่าจะเป็นธีมของรักแท้ในหลากหลายรูปแบบ ที่ต้องอาศัยความเสียสละและความเข้าใจ จนสุดท้ายคนรักกันก็ลงเอยอย่างมีความสุขได้ บวกกับฉากหลังและตัวละครโบราณที่ให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งละเมียดละไม แล้วก็โรแมนติกชวนฝันกว่า อ่านแล้วซาบซึ้งตรึงใจดีค่ะ
4) หนูแยม: นอกจากงานแปลแล้ว ทำงานอื่นควบคู่ไปด้วยหรือเปล่าคะ แล้วต้องแบ่งเวลาทำงานยังไงบ้าง
นักแปล: เวลาส่วนใหญ่จะช่วยงานที่บ้าน ส่วนงานแปลทำตอนดึกๆ กับวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ
5) หนูแยม: เวลาทำงานเครียดๆ มีวิธีจัดการกับความเครียดยังไงคะ
นักแปล: ก็มีหลายวิธีนะคะ ที่ได้ผลสุดคือ หาคนปรับทุกข์ ระบายความรู้สึก แต่บางครั้งไม่รู้จะคุยกับใคร ก็จะเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองไปเลย อย่างดูหนังหรือซีรีย์ ทำงานฝีมือ หรือไม่ก็ชอปปิ้งค่ะ
6) หนูแยม: คิดว่าการแปลนิยายให้อะไรกับเราบ้างคะ
นักแปล: ส่วนตัวแล้วได้เพิ่มพูนความรู้ทางภาษาเยอะมาก (ซึ่งอันนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำงานแปลเลยละค่ะ) นอกจากนี้บางครั้งยังได้มุมมองใหม่ๆ ช่วยให้เข้าใจโลกเข้าใจคนมากขึ้น
7) หนูแยม: โดยส่วนตัวแล้ว ชอบอ่านเรื่องแนวไหน หรือชอบตัวละครแบบไหนเอ่ย
นักแปล: ชอบอ่านแนวหักมุม ส่วนตัวละครชอบแบบที่มีมิติ มีทั้งข้อดีข้อเสีย แล้วก็มีพัฒนาการ เช่นตอนต้นเรื่องนิสัยไม่ดี พอต้องผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ แล้วเข้าใจชีวิตและทำให้เป็นคนดีขึ้น อะไรประมาณนี้ค่ะ
8) หนูแยม: อยากให้นิยาม ‘ความสุข’ ในแบบของตัวเองหน่อยค่ะ
นักแปล: ครอบครัวอบอุ่นค่ะ สำคัญที่สุดในชีวิต
9) หนูแยม: ถ้าหากเพื่อนๆ ที่อ่านอยู่อยากเป็นนักแปลบ้าง ควรเริ่มต้นยังไงดีคะ
นักแปล: ง่ายที่สุดน่าจะเริ่มจากการหาหนังสือแปลกับต้นฉบับมาลองอ่านเทียบกันให้พอได้ไอเดีย แล้วก็อาจจะสะสมคำศัพท์ของตัวเอง เวลาแปลจะได้มีคำให้เลือกใช้เยอะๆ สุดท้ายก็ฝึกๆๆๆๆ ที่สำคัญคือรับฟังคำวิจารณ์ จะได้พัฒนาตัวเอง
10) หนูแยม: สุดท้าย อยากฝากอะไรถึงนักอ่านแจ่มใสบ้างคะ
นักแปล: ติดตามผลงานกันด้วยนะคะ พร้อมรับคำติชมเสมอ และจะพยายามปรับปรุงฝีมือแปลให้ดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ